แก่นตะวัน พืชสมุนไพร

  เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก   
  ตะกร้าสินค้า (0)       
 
 
 

 

 

 

 

 

แก่นตะวัน พืชสมุนไพร เพื่อสุขภาพ

มีสารอินนูลิน ช่วยลดน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน

ลดไขมันในเลือด ลดความอ้วน ควบคุมน้ำหนัก

ลดอาการท้องผูก ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

ความดันโลหิตสูง มะเร็งลำใส้ใหญ่

...

*** มาทำความรู้จัก "แก่นตะวัน" ***

 

 

            ..

            ..

        อีกหนึ่งพืชสมุนไพร ที่มีสรรพคุณสุดยอด และกำลังมาแรงแซงโค้งในเวลานี้ คือ “แก่นตะวัน” เป็นพืชที่มีหัวใต้ดินคล้ายมันแกว ลำต้นสูง 1.5-2.0 ม. ใบรีรูปไข่ บางพันธุ์มีขอบใบหยัก มีขนตามกิ่งและใบ ดอกทรงกลมแบน สีเหลือง คล้ายดอกทานตะวัน หรือ บัวตอง ดังนี้จึงมีชื่อเรียกอื่นๆ ได้แก่ “ทานตะวันหัว” “แห้วบัวตอง” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า เยรูซาเล็ม อาร์ติโช้ก (Jerusalem artichoke) หรือซันโช้ก (sunchoke) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Helianthus tuberosus L. เป็นพืชในตระกูลทานตะวัน มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ

              สุดยอดสรรพคุณของแก่นตะวันนั้นอยู่ตรงหัว ซึ่งสามารถขุดขึ้นมาล้างแล้วรับประทานสดๆได้เลย
              สำหรับสรรพคุณต่างๆของแก่นตะวันนั้น ดร.ครรชิต จุดประสงค์ อาจารย์สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้บอกไว้ว่า
              แก่นตะวันมีส่วนประกอบของอินนูลินและฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ในปริมาณสูง ซึ่งสารทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ดีกว่าใยอาหารชนิดอื่นๆ จึงถูกแบคทีเรียย่อยสลายได้ กลายเป็นอาหารที่ดีของจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุลินทรีย์ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
              ช่วยควบคุมน้ำหนัก
              นอกจากนี้ยังเป็นสารประกอบเชิงซ้อนกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานต่ำกว่ากลุ่มคาร์โบไฮเดรตทั่วไป จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีความสำคัญในการแก้ปัญหาภาวะน้ำหนักเกิน เนื่องจากสารดังกล่าวมีลักษณะคล้ายแป้ง แต่มีคุณสมบัติในการรักษาสมดุลของสารอาหารที่ได้จากการบริโภค โดยสามารถบริโภคได้ในปริมาณมาก แต่ยังคงรักษาระดับพลังงานให้คงที่ จึงใช้เป็นอาหารควบคุมน้ำหนักได้
              • ช่วยลดน้ำหนัก
              คุณสมบัติเฉพาะของสารอินนูลิน ที่ร่างกายไม่มีความสามารถในการย่อยที่กระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก จึงสามารถอยู่ในระบบทางเดินอาหารได้เป็นระยะเวลานาน ช่วยให้รู้สึกอิ่ม ส่งผลทำให้บริโภคอาหารได้น้อยลง สามารถควบคุมพลังงานที่ได้รับต่อวันได้เป็นอย่างดี
              ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
              นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมและรสชาติหวาน สามารถใช้ทดแทนน้ำตาล โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด แม้จะบริโภคในปริมาณมาก จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น แก่นตะวันมีเนื้อกรอบคล้ายมันแกว สามารถกินได้ทั้งแบบสดๆ เมื่อกินเป็นประจำสามารถทดแทนอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้
              • ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ และช่วยดูดซึมแคลเซียม
              แก่นตะวันยังมีคุณสมบัติเป็นใยอาหาร สามารถผลักของเสียที่ขับถ่ายได้ยาก หรือของเสียที่ตกค้างในทางเดินอาหารออกไปจากร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก และลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้
              นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติความเป็นพรีไบโอติค ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยลดจุลินทรีย์ที่ก่อโรค โดยเกิดจากกระบวนการการหมักของสารที่มีอินนูลินและโอลิโกแซคคาร์ไรด์เป็นส่วนประกอบ
              โดยปกติ ในกระบวนการย่อยอาหาร สารอาหารที่ถูกย่อยและดูดซึม จะลดความเป็นกรดลงเรื่อยๆ เมื่อถึงลำไส้ใหญ่จะมีฤทธิ์เป็นด่าง พร้อมขับถ่ายออกจากร่างกาย
              แต่ “แก่นตะวัน” ซึ่งมีอินนูลินและฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์เป็นส่วนประกอบ เมื่อเดินทางมาถึงลำไส้ใหญ่ จะมีจุลินทรีย์บางชนิดย่อยให้กลายเป็นกรดไขมันสายสั้นๆ กรดไขมันดังกล่าวส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณของ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีฤทธิ์ในการกำจัด จุลินทรีย์บางชนิดที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย จึงช่วยให้ลำไส้ ทำงานได้ตามปกติ และยังสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย
              กระบวนการนี้ยังช่วยปรับสภาพของลำไส้ให้มีความเหมาะสมต่อการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิดที่ยังไม่สามารถดูดซึมในลำไส้เล็ก ช่วยให้ลำไส้ใหญ่มีการดูดซึมแร่ธาตุที่ จำเป็นต่อร่างกายเพิ่มขึ้นได้ โดยจากผลการวิจัยสามารถดูดซึมแร่ธาตุต่างๆโดยเฉพาะแคลเซียมได้มากถึงร้อยละ 20 โดยกระบวนการทั้งหมดผ่านการทดสอบในคนเรียบร้อยแล้ว
              เพื่อให้ได้ประโยชน์ของสารอาหารที่ครบถ้วน จึงควรบริโภค “แก่นตะวัน” ในรูปของอาหาร เพื่อให้ได้คุณค่าจากใยอาหาร ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งลำไส้
              วิธีรับประทาน “แก่นตะวัน” ให้ได้คุณค่า

            หากผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก แนะนำให้รับประทานก่อนอาหารประมาณ 30 นาทีจะช่วยให้อิ่มท้อง จะทำให้อยากอาหารน้อยลง แต่สำหรับคนทั่วไปสามารถเลือกรับประทานได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะทานก่อนอาหาร ระหว่างมื้อ หรือหลังอาหาร หรือเป็นของทานเล่นก็ได้

            สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคบางชนิด เช่นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต เป็นต้น ควรมีการทดสอบว่ามีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือด รวมทั้งความดันว่ามากน้อยขนาดไหน โดยการทดลองรับประทานแต่น้อย (ประมาณ 1 หัว) แล้วสังเกตุอาการว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ค่อยๆเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนถึง 100 กรัม เนื่องจากแก่นตะวันมีสารที่มีบทบาทหลายด้าน บางคนอาจมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงมาก อาจให้เกิดอันตรายได้ ดังคำโบราณกล่าวไว้ว่า "ลางเนื้อชอบลางยา" คือใช้ได้ดีกับอีกคนแต่อาจไม่ดีกับอีกคน เป็นได้ อย่างไรก็ตามหากต้องการทดสอบ แนะนำให้รับประทานไปกับมื้ออาหารปกติ จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกายน้อยกว่าการทานก่อนหรือหลังอาหาร

...

...

 
Advertising Zone    Close
 
Online:  1
Visits:  6,449
Today:  7
PageView/Month:  47

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com